คำอธิบาย
ที่จอดรถอัตโนมัติแบบพัซเซิล ขนาด 2 ชั้น 5คัน(2 Floors Automatic Puzzle Parking System 5 cars)
🅿️ ระบบที่จอดรถยนต์อัตโนมัติ (Automatic Car Parking System หรือ Auto Parking)
ระบบที่จอดรถยนต์อัตโนมัติเป็นเทคโนโลยีที่ช่วยเพิ่มพื้นที่จอดรถให้มากขึ้นในพื้นที่จำกัด โดยการใช้กลไกหรือหุ่นยนต์ในการเคลื่อนย้ายรถยนต์ไปจอดในตำแหน่งที่จัดเตรียมไว้โดยไม่ต้องใช้คนขับ รายละเอียดหลัก ๆ มีดังนี้ครับ
หลักการทำงานและขั้นตอนการใช้งาน
- นำรถเข้าช่องจอด: ผู้ขับขี่นำรถเข้าจอดในช่องรับรถ (Transfer Area) ที่กำหนดไว้
- เตรียมรถ: สำคัญมาก ผู้ขับขี่ต้องดับเครื่องยนต์ ใส่เกียร์ P (หรือตามที่ระบบกำหนด) พับกระจกข้าง และออกจากรถ
- เริ่มระบบ: ใช้บัตร (Access Key Card) หรือปุ่มกดเพื่อสั่งให้ระบบทำงาน
- การเคลื่อนย้าย: ระบบกลไกจะทำการยกรถ เคลื่อนย้าย และจัดเก็บรถเข้าสู่ช่องจอดที่ว่างด้านบนหรือด้านข้างโดยอัตโนมัติ โดยที่ไม่มีคนอยู่ภายในรถ
- การเรียกใช้รถ: ผู้ขับขี่ใช้บัตรหรือรหัสเพื่อเรียกใช้รถ ระบบจะนำรถลงมาที่ช่องรับรถ และส่วนใหญ่มักจะหมุนรถให้หันหน้าออกเพื่อให้ขับออกได้ง่าย
- ระยะเวลา: โดยทั่วไปใช้เวลาประมาณ 3 – 5 นาทีในการนำรถเข้าหรือออกจากระบบ
🧩 รายละเอียดเฉพาะของระบบที่จอดรถแบบ Puzzle Parking / Lift-Slide
ระบบ Puzzle Parking หรือ Lift-Slide เป็นระบบที่จอดรถกึ่งอัตโนมัติ (Semi-Automated Parking System) ที่ได้รับความนิยมอย่างสูงในพื้นที่ที่มีข้อจำกัดด้านที่ดิน เช่น คอนโดมิเนียม หรืออาคารสำนักงาน เพราะมีหลักการทำงานคล้ายการต่อจิ๊กซอว์เพื่อใช้ประโยชน์จากพื้นที่แนวตั้งและแนวนอนร่วมกัน
1. ⚙️ หลักการทำงาน (Mechanism)
- การเคลื่อนที่ผสมผสาน: หัวใจของระบบนี้คือความสามารถในการเคลื่อนที่ของแท่นจอด (Pallet) ทั้งใน แนวดิ่ง (ยกขึ้น-ลง) และ แนวราบ (เลื่อนซ้าย-ขวา) เพื่อเปิดช่องว่าง (Empty Slot) ให้แท่นจอดที่ต้องการเข้าถึงสามารถเคลื่อนที่ลงมายังระดับพื้นดินได้
- ช่องว่างสำคัญ: ระบบจะถูกออกแบบให้มี ช่องว่างจอดรถที่ว่างเปล่า (Spare Slot) อย่างน้อย 1 ช่อง ในแต่ละระดับชั้นยกเว้นชั้นบนสุด เพื่อใช้เป็นทางเดินให้รถคันอื่น ๆ เคลื่อนที่หลีกไปได้
- การนำรถเข้า/ออก:
- เมื่อต้องการนำรถเข้าจอด ระบบจะจัดเรียงพาเลทเพื่อนำพาเลทว่างมายังช่องทางเข้า (Entrance/Exit Bay)
- เมื่อต้องการนำรถออก ระบบจะคำนวณและใช้กลไกยก/เลื่อนพาเลทที่ขวางทางออกของรถเป้าหมาย จนกว่าพาเลทของรถคันนั้นจะถูกเคลื่อนลงมาถึงระดับพื้นดิน
2. 🏗️ โครงสร้างและการติดตั้ง
- ระดับชั้น: สามารถออกแบบได้หลากหลาย ตั้งแต่ 2 ชั้น ไปจนถึง 7 ชั้น หรือมากกว่านั้น ขึ้นอยู่กับความสูงของพื้นที่และจำนวนรถที่ต้องการรองรับ
- การติดตั้ง: สามารถติดตั้งได้ทั้ง บนพื้นดิน (เหนือพื้นอาคาร), ฝังในหลุมใต้ดิน (Pit Type) หรือติดตั้งแบบผสมผสาน
- ส่วนประกอบหลัก: ประกอบด้วย โครงสร้างเหล็ก, แท่นจอดรถ (Pallet), มอเตอร์, ระบบไฮดรอลิก/สลิง และระบบควบคุมไฟฟ้า (PLC)
3. ✅ ข้อดีและข้อเสียเฉพาะ
| จุดเด่น (Pros) | ข้อจำกัด (Cons) |
| ประหยัดพื้นที่สูงสุด | ความเร็วในการนำรถออก: อาจใช้เวลา 3-5 นาที/คัน โดยเฉพาะหากรถถูกจอดอยู่ด้านในและต้องมีการเลื่อนหลีกหลายขั้นตอน |
| ความยืดหยุ่นในการออกแบบ | ไม่เหมาะกับเวลาเร่งด่วน: การนำรถออกมาพร้อมกันจำนวนมากในช่วงเวลาเดียวกันอาจทำให้เกิดการรอคิว |
| ความปลอดภัยของรถ | การบำรุงรักษา: ระบบกลไกมีความซับซ้อนกว่าการจอดแบบปกติ จึงต้องการการดูแลรักษาอย่างสม่ำเสมอ |
| ลดความเสี่ยงอุบัติเหตุเฉี่ยวชน | ข้อจำกัดด้านขนาดรถ: รถบางรุ่นที่มีขนาดใหญ่เกินกำหนด (ความกว้าง/ความสูง/น้ำหนัก) อาจไม่สามารถเข้าจอดได้ |






